ลูกนิมิต คืออะไร ทำไมถึงมี ๙ลูก
ก่อนอื่นเรามารู้จักความหมาย และประวิติของลูกนิมิตกันก่อนดีกว่า
ลูกนิมิตตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานฯ หมายถึง ลูกที่ทำขึ้นมากลมๆประมาณเท่าบาตร มักทำด้วยหิน และใช้ฝังเป็นเครื่องหมายเขตุอุโบสถ
ส่วนพจนานุกรมฉบับมติชนให้ความหมายว่า ก้อนหินที่วางนอกเขตพัทธสีมาในการทำสังฆกรรม และจากความหมายของคำว่า " นิมิต " ...ซึ่งแปลว่าเครื่องหมาย จึงสรุปได้ว่าลูกนิมิต คือ ลูกหินทรงกลมที่ใช้ฝัง เพื่อเป็นเครื่องหมายบอกอาณาเขตของอุโบสถ หรือ โบสถ์ เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรมนั่นเอง
เหตุใดจึงต้องมี " ลูกนิมิต " ...เป็นเครื่องหมายแสดงอาณาเขตของโบสถ์นั้น สืบเนื่องมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศศาสนาแล้ว ได้มีผู้เข้ามาบวชเป็นพระภิกษุสาวกมากขึ้น พระองค์จึงส่งพระภิกษุเหล่านั้นออกไปเผยแผ่พระศาสนาตามที่ต่างๆ ซึ่งทำให้พระภิกษุดังกล่าวห่างจากการฟังธรรมคำสั่งสอนของพระองค์
นอกจากนี้ พระสงฆ์ที่บวชแล้วไม่ใช่ว่าจะบรรลุพระอรหันต์กันทุกองค์ ...ดังนั้น..อาจจะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งของพระพุทธองค์ที่ต้องการให้มีการทบทวนพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์อยู่เสมอ รวมทั้งให้สงฆ์ได้มีการปรึกษาหารือ เพื่อแก้ปัญญหา หรือทำกิจบางประการร่วมกัน .....ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงได้กำหนดให้พระสงฆ์ต้องประชุมร่วมกัน หรือที่เรียกว่า ทำสังฆกรรมในบางเรื่อง เช่น การสวดปาติโมกข์ การบวชพระ การกรานกฐิน และการปวารณากรรม เป็นต้น ..โดยกำหนดให้ทำสังฆกรรม ต้องกระทำในบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น เพื่อมิให้ฆราวาสสมายุ่งเกี่ยว เนื่องจากเรื่องเหล่านี้เป็นกิจของสงฆ์ผู้ทรงศีลโดยเฉพาะ
แต่.....เนื่องจากในสมัยแรกๆ พระภิกษุยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน แม้ว่าต่อมาจะมีผู้ถวายพื้นที่เป็นวัดให้ แต่ ส่วนใหญ่จะเป็นป่าตามธรรมชาติ ดังนั้น...เมื่อพระสงฆ์ต้องจาริกไปยังที่ต่างๆ จึงทรงให้หมายเอาวัตถุบางอย่างเป็นเครื่องกำหนดเขตแดนขึ้น เรียกว่า " การผูกพัทธสีมา " ( คำว่า สีมา แปลว่า เขตแดน ) ...ซึ่งพระพุทธองค์ได้กำหนดไว้ ๘ ประการ ได้แก่ ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม่น้ำและน้ำนิ่ง และเรียกเครื่องหมายบอกเขตแดนนี้ว่า “ นิมิต” ...แต่นิมิตเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ทำให้การกำหนดเขตแดนที่จะทำสังฆกรรม หรือพูดง่ายๆ ว่า การกำหนดสถานที่ประชุมสงฆ์ ซึ่งทำได้ยากมักคลาดเคลื่อน
ต่อมาจึงพัฒนากำหนดนิมิตใหม่อีกประเภทหนึ่งขึ้นแทน คือ เป็นนิมิตที่จัดสร้าง หรือ ทำขึ้นเฉพาะ เช่น บ่อ คู สระ และก้อนหิน โดยเฉพาะก้อนหินซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก เพราะทนทานและเคลื่อนย้ายได้ยากในสมันโน้น.....ครั้นเมื่อเทคโนโลยี มีความก้าวหน้ามากขึ้น จึงมีการประดิษฐ์ก้อนหินให้เป็นลูกกลมๆ เป็นเครื่องหมายที่ค่อนข้างถาวรขึ้นแทน และเรียกว่าลูกนิมิต ดังที่เราเห็นกันอยู่ปัจจุบัน รวมถึงการเรียกเขตแดนที่ใช้ทำสังฆกรรมนี้ว่า " โบสถ์ " ...ซึ่งสมัยก่อนโบสถ์คงมีลักษณะตามธรรมชาติมากกว่าจะเป็นการถาวรวัตถุเช่นสมัยนี้ และเมื่อมี " ลูกนิมิต " เป็นเครื่องหมายบอกเขต ต่อๆ มาก็มีพิธีเรียกว่าการ " ฝังลูกนิมิต " ขึ้นด้วย
เมื่อเรารู้จักความหมาย และประวิติของลูกนิมิต มาพอสมควรแล้ว หลายคนอาจสงสัยทำไมลูกนิมิตถึงมี ๙ ลูก ใบเสมามีแค่ ๘ใบ แล้วลูกนิมิตที่เกินมาอีกหนึ่งลูก จะไปฝังไว้ที่ไหน กันนะ
ลูกนิมิตทั้ง ๙ ลูกนั้นจำนวน ๑ ลูก ซึ่งถือเป็นนิมิตเอกนั้นจะตั้งอยู่กลางอุโบสถเพื่อถวายการบูชาพระพุทธเจ้า ส่วนจำนวน ๘ ลูก ถูกจัดให้อยู่ตามทิศต่าง ๆ โดยรอบอุโบสถ ซึ่งทิศที่อยู่รอบอุโบสถนั้นเรียกว่าทิศทั้ง ๘ มีความหมายที่เป็นมงคล คือ เพื่อเป็นสัญลักษณ์หรือองค์แทนพระอรหันต์สาวก และเพื่อเป็นการบูชา พระอรหันต์สาวกผู้ใหญ่ประจำทิศ หรืออีกนัยหนึ่งนั้นเป็นองค์แทนพระอรหันต์สาวกที่รักษาอุโบสถหรือเขตพุทธาวาสของพระพุทธเจ้า และเป็นการบูชาเทพนพเคราะห์ทั้ง ๙ ให้เกิดบุญและสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว โดยแต่ละลูกมีความหมายดังนี้
๑. นิมิตลูกเอก เป็นลูกที่มีความสำคัญมาก ถือเป็นประธานของลูกนิมิตทั้งหมด ฝังไว้บริเวณใจกลางอุโบสถ หรือบางท่านเรียกว่า สะดือโบสถ์ ก็มี รายล้อมด้วยลูกนิมิตอีก ๘ ลูก เป็นการถวายการบูชาพระพุทธเจ้า ผู้เป็นพระบรมศาสดาเอกของพระพุทธศาสนาผู้เป็นพระประมุขแห่งสงฆ์ เป็นการอัญเชิญและบูชาพระเกตุ เทพผู้คุ้มครองสถานที่ส่วนกลางของอุโบสถ
๒. ทิศตะวันออก(ทิศบูรพา) ลูกที่อยู่ด้านหน้าของอุโบสถ ถือเป็นลูกบริวารที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เป็นลูกแรกที่ต้องเริ่มนับ ยกเว้นลูกกลางสะดือโบสถ์ ดังนั้น จึงเปรียบนิมิตลูกนี้เหมือนปฐมสาวก หรือ พระสาวกองค์แรกของพระพุทธเจ้า คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระอัครสาวกผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้รู้ราตรีกาลนาน คือ มีความรู้มาก ผ่านโลกมามาก เนื่องจากท่านเป็นผู้เดียว ที่เมื่อยังเป็นดาบสที่ทำนายพระราชกุมารคือพระพุทธเจ้าเมื่อมีพระประสูติกาล และทำนายว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และพระดาบสก็เฝ้ารอการบรรพชาของพระองค์เพื่อจะได้ออกบวชตาม พระองค์ และถวายตัวเป็นพระอัครสาว การฝังลูกนิมิตไว้ด้านทิศตะวันออกเพื่อเป็นการบูชาพระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นการอัญเชิญและบูชาพระจันทร์ เทพผู้คุ้มครองสถานที่ส่วนด้านหน้าของอุโบสถ
๓. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ทิศอาคเนย์) หรือด้านหน้าฝั่งขวาของอุโบสถ การฝังลูกนิมิตไว้ทางทิศนี้ เพื่อบูชา พระมหากัสสปะเถระ พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้ทรงธุดงค์คุณ ซึ่งต่อมาได้เป็นประธานสงฆ์ทำสังคายนา เป็นการอัญเชิญและบูชาพระอังคารเทพผู้คุ้มครองสถานที่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุโบสถอีกองค์หนึ่ง
๔. ทิศใต้ (ทิศทักษิณ) เป็นลูกนิมิตที่อยู่ด้านขวาของอุโบสถ เป็นการบูชาพระสารีบุตร พระอัครสาวกฝ่ายขวา พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางปัญญา เป็นการอัญเชิญและบูชาพระพุธ เทพผู้คุ้มครองสถานที่ด้านทิศใต้ของอุโบสถ
๕. ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ทิศหรดี) หรือทิศด้านหลังฝั่งขวาของอุโบสถ การฝังลูกนิมิตทางด้านทิศนี้ เพื่อบูชาพระอุบาลีเถระ พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางวินัย และเป็นการอัญเชิญและบูชาพระเสาร์ ซึ่งเป็นเทพหนึ่งในนพเคราะห์ทั้ง ๙ คือ เทพผู้ดูแลคุ้มครองสถานที่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุโบสถ
๖. ทิศตะวันตก(ทิศประจิม) เป็นลูกนิมิตที่ฝังอยู่ด้านหลังของตัวอุโบสถ เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของเงา ซึ่งเปรียบได้กับพระเถระที่เป็นพุทธอุปัฏฐาก คอยเฝ้าติดตามดูแลปรนนิบัติรับใช้พระพุทธองค์เหมือนเงาตามตัว ดังนั้น การฝังลูกนิมิตทางทิศนี้ เพื่อเป็นการบูชา พระอานนท์เถระ พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางพหูสูตและเป็นมหาพุทธอุปัฎฐากแด่พระพุทธเจ้า และอัญเชิญบูชาพระพฤหัสบดี เทพคุ้มครองทิศตะวันตก
๗. ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ทิศพายัพ) การฝังลูกนิมิตที่ฝังอยู่ด้านหลังฝั่งซ้ายของอุโบสถทางด้านทิศนี้ เป็นการบูชา พระควัมปติเถระ พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศ ในทางลาภสักการะและรูปงาม ท่านเป็นพระอรหันต์องค์ที่ ๑๐ ของโลก และเป็นสหาย ๑ ใน ๔ ของพระยสะกุลบุตรอีกทั้งเป็นบุตรของนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาสในวันก่อนที่พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ และอัญเชิญบูชาพระราหู ซึ่งเป็นเทพประจำทิศนี้
๘. ทิศเหนือ(ทิศอุดร) ลูกนิมิตที่ฝังทางด้านทิศนี้ถือเป็นลูกที่มีความสำคัญอีกลูกหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านซ้าย ของตัวอุโบสถ เพื่อเป็นการบูชา พระมหาโมคคัลลานะ พระอัครสาวกฝ่ายซ้ายของพระพุทธเจ้า ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางแสดงฤทธิ์ และอัญเชิญบูชาพระศุกร์เทพคุ้มครองรักษาประจำทิศนี้
๙. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ(ทิศอีสาน) ลูกนิมิตที่ฝังอยู่ด้านหน้าฝั่งซ้ายของอุโบสถทางทิศเหนือนี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพัน มีผลทางด้านจิตใจ ถือเป็นทิศสุดท้าย เพื่อเป็นการบูชา พระราหุลเถระ ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะ พระอัครสาวกผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะผู้เลิศในทางการศึกษา และอัญเชิญบูชาพระอาทิตย์เทพผู้คุ้มครองรักษาประจำทิศ
เรามาดูอานิสงส์ของการฝังลูกนิมิตกันบ้างดีกว่า
ด้วยเหตุที่ในสมัยก่อน การที่จะสร้างอุโบสถได้หลังหนึ่ง ๆ หรือแม้จะซ่อมแซมอุโบสถเก่าให้สวยงามขึ้นมิใช่เรื่องง่าย ๆ และต้องใช้ระยะเวลานานมาก ดังนั้น จึงเชื่อกันว่า หากใครได้มีโอกาสทำบุญ “ฝังลูกนิมิต” หรือว่าได้ร่วมสร้างอุโบสถไว้ในพระพุทธศาสนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา คือ การบูชาคุณของพระพุทธเจ้า และเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้พระได้ใช้ทำสังฆกรรมนั้น จะมีอานิสงส์ถึง ๖ ประการด้วยกัน คือ
· ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทุกชาติ ปราศจากอุปัททวะ ทั้งหลาย
· ไม่เกิดในตระกูลต่ำ
· หากเกิดในมนุษย์โลก ก็จะเกิดเป็นท้าวพระยามหากษัตริย์
· หากเกิดในเทวโลก ก็จะเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช
· จะสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีผิวพรรณผ่องใส และ
· มีอายุยืนนาน
นอกจากนี้ ในพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตนั้นนิยมจะใส่สมุด ดินสอ เข็ม และด้าย เป็นต้น
ลงไปในหลุมที่ฝังลูกนิมิตด้วย ทั้งนี้เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นนิมิตหมายแห่งความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ได้สร้างบุญ ซึ่งขอนำมาอรรถาธิบายโดยสังเขป ดังนี้
· เข็ม หมายถึง ความเป็นผู้มีปัญญา สามารถรู้แจ้งแทงตลอดอย่างทะลุปรุโปร่ง
· ด้าย หมายถึง ความเป็นผู้มีอายุยืนยาวตราบเท่าอายุขัย
· ธูป หมายถึง พระคุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ที่เราทั้งหลายน้อมรำลึกถึงอยู่ ธูปจึงเป็นสัญญลักษณ์แห่งการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
· เทียน หมายถึง พระธรรมอันแสดงถึงความสว่างไสวประดุจดังประทีปส่องสว่าง ฉะนั้น เทียนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาพระธรรม
· ดอกไม้ หมายถึง ความสวยงาม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดอกไม้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาพระสงฆ์ ซึ่งดอกไม้หลากสีสัน เมื่อนำมาใส่แจกันจัดเป็นดอกไม้จึงทำให้เกิดความสวยสดงดงาม อุปมาดังหมู่สงฆ์ที่มาจากต่างตระกูล ต่างครอบครัวเมื่อมาอยู่ร่วมกันในร่มพระพุทธศาสนาแล้วก็ก่อให้เกิดความงดงามอย่างยิ่ง
· แผ่นทอง หมายถึง ธรรมดาว่า ทองคำ เป็นคุณชาติที่สูงค่าที่นำมาปิดองค์พระ ลูกนิมิต ช่อฟ้า เป็นเครื่อง แสดงให้เห็นถึงความยกย่อง เชิดชูบูชาด้วยใจที่สูงส่ง ผลานิสงส์ย่อมอำนวยผลให้ได้ผลสำเร็จในสิ่งที่เป็น ความงามโดยประการทั้งปวง
· สมุด,แผ่นกระดาษ ดินสอ สำหรับจดบันทึกจารึกสิ่งต่าง ๆ ไว้ หมายถึง ความเป็นผู้ทรงจำดี ไม่มีหลงลืมเลือน
อันที่จริงแล้ว “การฝังลูกนิมิต” เพื่อกำหนดเขตทำสังฆกรรม หรือปัจจุบันก็คือ การกำหนดเขตที่เป็นอุโบสถนั้น เป็นกิจของสงฆ์โดยเฉพาะ ฆราวาสหรือชาวบ้านไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่เนื่องจากปัจจุบันอุโบสถมิเพียงแต่จะเป็นสถานที่ที่สงฆ์ใช้ทำสังฆกรรมเท่านั้นแต่ยังเป็น ศาสนสถานที่พุทธศาสนิกชนใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมอื่น ๆ ด้วย อีกทั้ง ไม่ว่าจะสร้างหรือซ่อมแซมอุโบสถขึ้นใหม่จำเป็นต้องมีการผูกสีมาใหม่ทุกครั้ง ดังนั้นทางวัดต่าง ๆ จึงมักจะประกาศเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนได้มาทำบุญสร้างกุศลเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และยังเป็นการยกย่องบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ อีกด้วย
ข้อมูลที่นำมาเขียน ข้าพเจ้าขออนุญาตเจ้าของบทความทั้งหลายที่ข้าพเจ้ารวบรวมมาจากหลายที่ เขียนเพื่อให้ความรู้ และดำรงค์สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
ศิลาทิพย์
หน้าที่เข้าชม | 257,384 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 164,989 ครั้ง |
เปิดร้าน | 23 ส.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 16 ก.ย. 2568 |
อีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อเรา
ใช้โปรแกรม Messengersสแกนที่โค้ค
แล้วแชทสอบถามข้อมูลสินค้ากับเราได้เลยครับ
อีกช่องทางติดต่อ
คุณสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดของ LINE
เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ